#WellnessSolutions #HealthConsultant #PharmaConsulting #HealthSupport
เรียบเรียงโดย อนุชิต เทพสี บ.จิว เวลเนสส จำกัด
PM2.5 มีผลต่อสุขภาพอย่างไร?
PM2.5 คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน ซึ่งสามารถแทรกซึมเข้าสู่ปอดได้ลึก และกระทบต่อระบบหายใจ รวมถึงการไหลเวียนของเลือด เมื่อสูดดมเข้าไปเป็นเวลานานอาจก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจ หัวใจ และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งปอด

กลุ่มเสี่ยง
- กลุ่มเสี่ยงที่ได้รับผลกระทบจาก PM2.5 ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคปอดเรื้อรัง และผู้ที่มีปัญหาหัวใจ ผู้ที่ทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้
การป้องกันตัวจาก PM2.5
- สวมหน้ากากที่มีประสิทธิภาพ เช่น หน้ากาก N95 เพื่อกรองฝุ่น
- หลีกเลี่ยงการออกจากบ้านในช่วงที่ค่าฝุ่นสูง
- ปรับอากาศภายในบ้านให้สะอาด เช่น การใช้เครื่องฟอกอากาศ
- ดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อช่วยล้างสารพิษที่เข้าไปในร่างกาย
เช็คค่าฝุ่น PM2.5 ได้อย่างไร
- สามารถเช็คค่าฝุ่น PM2.5 ผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพอากาศ เช่น Air4Thai IQAir แอปสภาพอากาศในสมาร์ทโฟน หรือเว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษ เพื่อดูค่าฝุ่นในพื้นที่ต่างๆ
ค่าที่ควรระวัง: หากค่า PM2.5 เกิน 50 µg/m³ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง และสวมหน้ากาก N95 หากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน
ความแตกต่างของ PM2.5 และ AQI
- PM2.5 คือ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่สามารถทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะในปริมาณมาก ส่วน AQI (Air Quality Index) คือ ดัชนีคุณภาพอากาศที่ใช้ในการวัดคุณภาพอากาศโดยรวม ซึ่งจะรวมค่าฝุ่น PM2.5, ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์, และสารมลพิษอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ (เช่น PM2.5, PM10, โอโซน) และแปลงเป็นค่าดัชนีที่บ่งบอกคุณภาพอากาศโดยรวมในระดับที่เข้าใจง่าย เช่น ดี, ปานกลาง, ไม่ดีต่อสุขภาพ เมื่อ AQI สูงแสดงว่าอากาศมีมลพิษมากและอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
การรู้เท่าทันและติดตามค่าฝุ่น PM2.5 เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มเสี่ยง เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาว และลดความเสี่ยงที่เกิดจากมลพิษทางอากาศ
